November 22, 2024

Warning: sprintf(): Too few arguments in /www/wwwroot/newsdemomb182.com/wp-content/themes/chromenews/lib/breadcrumb-trail/inc/breadcrumbs.php on line 253
0 0
Read Time:3 Minute, 6 Second

เรื่องที่ไม่น่าจะเป็นปัญหาอย่าง “สีเสื้อต้องห้าม” ถึงขั้นถูกแบนไม่ให้ใช้ในฟุตบอล

ใครจะคิดว่า เรื่องที่ไม่น่าจะเป็นปัญหาอย่าง “สีเสื้อ” จะกลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับวงการ “ฟุตบอล” โดยเฉพาะกับสโมสรเก่าแก่แห่งอังกฤษอย่าง “คาร์ดิฟฟ์”

เป็นตำนานเรื่อง “สีแดง” สีดั้งเดิมของ The Bluebird หรือ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สโมสรดั้งเดิมในลีกฟุตบอลอังกฤษ มีมายาวนานตั้งแต่ปี 1920

เดิมทีพวกเขาใช้เสื้อสีน้ำเงินมาตลอด ตามสมญาณาม The Bluebird กระทั่งปี 2012 “วินเซนต์ ตัน” มหาเศรษฐีมาเลเซียเชื้อสายจีนเข้ามาซื้อหุ้นของสโมสรจนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

กลับเริ่มปฏิบัติการรีแบรนด์ครั้งใหญ่

เริ่มด้วยการเปลี่ยนโลโก้จาก “นกน้ำเงิน” เป็น “มังกรแดง” เปลี่ยนแปลงชุดเหย้า จากสีน้ำเงินที่ใช้มานานร่วม 100 ปี ให้กลายเป็นสีแดง ซึ่งมีเหตุผลมาจาก ความเชื่อเรื่องโชคลางตามสไตล์ของชาวเอเชีย

แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สร้างความงุนงง และโกรธแค้นให้กับแฟนบอลเป็นอย่างมาก จนทำให้เกิดการประท้วงกันยกใหญ่

อย่างไรก็ตาม หากมองข้ามกระแสการประท้วงของแฟนบอล ในแง่ผลงานของสโมสรกลับมีทิศทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะคว้าแชมป์ เดอะ แชมเปียนชิพ คว้าตั๋วเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกครั้งแรกของสโมสรได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งก็ไม่ใครรู้ว่า จะเกี่ยวข้องกับการ “รีแบรนด์” ที่ถึงขั้นรื้อสีเสื้อตามโชคลางจริงหรือไม่

แต่ท้ายที่สุด “วินเซนต์ ตัน” ก็ยังคงโดนแฟนบอลของ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ต่อต้านมาตลอด และเราแทบจะไม่เคยเห็นแฟนบอลของสโมสรใส่เสื้อแดงไปชมเกมที่สนามเลย

จนสุดท้ายเจ้าของทีมรายนี้ก็ทนกระแสเสียดทานไม่ไหว จากการขอร้องจากแม่ของเค้า ที่เคยมาดูบอลครั้งนึง และเห็นบรรยากาศที่ไม่เป็นมิตร และกลิ่นอาย ที่ไร้ความสุข เป็นเหตุให้เขาประกาศให้ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ กลับมาใช้เสื้อสีน้ำเงินอีกครั้งในวันที่ 10 มกราคม 2015 และสลับชุดเยือนเป็นสีแดงตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

ภายหลังจากการกลับมาใช้สีน้ำเงินอันคุ้นตาของคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ The Bluebird ก็ยังมีผลงานเลื่อนชั้นกลับมาพรีเมียร์ลีกได้อีกครั้งในฤดูกาล 2018-19 โดยยุคนั้นมียอดกุนซืออย่าง “นีล วอร์คน็อค” เป็นผู้นำทัพอีกด้วย

นอกจากกรณี “คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้” ยังมีอีกกรณีที่ถึงขั้นตั้งกฎ “สีต้องห้าม” ขึ้นมา ซึ่งอยู่ในลีก กัลโช่ เซเรีย อา แห่งอิตาลีนั่นเอง

ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการประกาศให้ทุกทีมห้ามใส่เสื้อสีเขียวลงสนาม นับตั้งแต่ฤดุกาล 2022 – 2023

เพราะสีเขียวกลมกลืนกับพื้นหญ้าในสนามจนเกินไป ทำให้แฟนบอลที่ติดตามรับชมผ่านโทรทัศน์ มองเห็นตัวผู้เล่นไม่ถนัด และยิ่งมีปัญหาอย่างมากสำหรับผู้ที่มีอาการตาบอดสี

โดยในขณะนั้นมีสโมสร “ซาสซูโอโล่” เพียงทีมเดียวที่ใส่ชุดเหย้าสีเขียวสลับดำ ส่วน “ลาซิโอ” และ “อตาลันต้า” ก็ใช้สีเขียว ในชุดทีมเยือน ในปีดังกล่าว

เป็นเรื่องของ “สีที่ไม่ต้องการ” ในแวดวงฟุตบอล

เรียบเรียงโดย : วิศิษฐ์ กาญจโนภาศ อาจารย์ สาขาการจัดการ การกีฬา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตจักรพงษ์ภูวนารถ ติดตามได้ที่

ที่มา :

https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-2903337/Cardiff-City-set-announce-club-colour-return-blue-red-Vincent-Tan-finally-bows-fan-pressure.html

https://www.footyheadlines.com/2021/07/serie-ban-green-kits-from-2022-23.html

ว่าด้วยเรื่อง “สีต้องห้าม” ถึงขั้นถูกแบนไม่ให้ใช้ในฟุตบอล คำพูดจาก เว็บตรง PG SLOT

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %