การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส นอกจากจะส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายรายแล้ว ยังทำให้มีชาวปาเลสไตน์บางส่วนขาดแคลนปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตอย่างน้ำ อาหาร รวมถึงเชื้อเพลิงต่าง ๆ ในการดำรงชีวิต ทำให้ชาวปาเลสไตน์หลั่งไหลเข้าสู่ค่ายผู้ลี้ภัยภายในฉนวนกาซา เพื่อให้ตนและครอบครัวมีชีวิตรอด
หนึ่งในชาวปาเลสไตน์นามว่า “โมฮาเหม็ด ซากี-อัลไซดี” (Mohamed Zaki al-Saidi) ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่น เผยขณะที่ตนและครอบครัวล้อมวงรับประทานอาหารที่ค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองข่าน ยูนิสของฉนวนกาซา
พื้นที่ฉนวนกาซาเสี่ยงเผชิญปัญหาไร้เชื้อเพลิง-ยา-อาหาร
ขบวนรถบรรทุกขนความช่วยเหลือชุดสอง ส่งเข้าไปยังฉนวนกาซา
อิสราเอล ปิดล้อม "ฉนวนกาซา" ทุกด้าน ตัดน้ำ-ตัดไฟฟ้า –อาหาร คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
โมฮาเหม็ดกล่าวว่า เป็นอาหารปรุงสุกมื้อแรกของครอบครัวที่ได้กินพร้อมหน้า ในระยะเวลาเกือบ 1 เดือน นับตั้งแต่อิสราเอลปิดล้อมพื้นที่ และระดมโจมตีทางอากาศทิ้งระเบิดถล่มดินแดนแห่งนี้อย่างหนักหน่วง เพื่อตอบโต้กลุ่มติดอาวุธฮามาสที่บุกโจมตีอิสราเอลอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา
หลังจาก โมฮาเหม็ด และครอบครัว อพยพจากเมืองอัล-ซาห์รา เข้ามาอยู่ที่ค่ายผู้ลี้ภัย ใกล้กับโรงพยาบาลนัสเซอร์ ชายชาวปาเลสไตน์รายนี้ตัดสินใจเปิดธุรกิจรถเข็นเครื่องดื่มเล็ก ๆ ที่จำหน่ายเครื่องดื่มและคัสตาร์ดใส่น้ำผึ้ง สร้างรายได้ราว 10 – 20 เชเขลต่อวัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัว ซึ่งต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ภายในค่าย
นอกจาก โมฮาเหม็ดแล้ว ผู้ชายคนอื่น ๆ ในค่าย ก็พยายามหาเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นกัน รวมถึง “บิลาล อาบู มุสตาฟา” ( Bilal Abu Mustafa) ที่ตัดสินใจเปิดร้านตัดผมขึ้น หลังจากร้านเดิมถูกระเบิดถล่ม
ทั้งนี้ ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา เผชิญการขาดแคลนเชื้อเพลิง อาหารและน้ำดื่มสะอาดมาในระยะหนึ่งแล้ว ในขณะที่ความขัดแย้งลุล่วงมาเป็นเวลานานเกือบ 1 เดือน ท่ามกลางการถูกโจมตีด้วยกระสุนปืนใหญ่ และทิ้งระเบิดถล่มอาคารสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากอย่างหนักหน่วง นับตั้งแต่กองทัพอิสราเอลเปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซา เรียกเสียงประณามจากนานาชาติที่เรียกร้องให้ปกป้องชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์